Hello Guest

Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - sataporn.karunawong

Pages: [1] 2 3 4
1

สอบถามเป็นความรู้ ร้านซ่อม ที่มีสาขาเยอะๆตามห้าง รับตรวจแท้ พวกเขา เข้าถึงอะไหล่แท้ได้อย่างไร ในเมื่อ แต่ละศูนย์ กั๊กอะไหล่ และจะได้กำไรงาม จากการ overhaul แล้วจึงเปลี่ยนอะไหล่ให้ อยากทราบว่า พวกเขามีช่องทางไหนที่เข้าถึงอะไหล่ได้บ้าง


แล้วร้านเหรียญทอง จำหน่ายอะไหล่แท้ไหมครับ เคยถาม จักรกรอก ของ rolex 6694(รุ่นวินเทจ) อะไหล่จักรกรอก ตัวละเป็นหมื่น ร้านบอกแท้ แล้วเขาเข้าถึง อะไหล่อย่างนี้ได้อย่างไร


เคยถามสโนลอยด์ บอก OEM 500 กว่าบาท ถ้า OEM เขาก็ว่า OEM แต่เขาบอกอะไหล่บางตัวเป็นของแท้ ไม่เข้าใจว่า แท้จริงไหม

2
วันนี้สวนขึ้นข้อ ใช้งานปกติ 24 Hrs เดินช้าประมาณ -2.7 Sec/day ไม่ถึง 3 วินาที อัตราความเที่ยงตรงดีมากครับ เทียบกับก่อน overhaul คือ เดินเร็ว วันละ 8 วินาที แฮปปี้ครับ

3
ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณาแนะนำ เท้าความนิดนึง คือ ผมเพิ่งจัด tissot le locle NOS มา ด้วยความสต๊อคมาเป็น 10 ปี กังวลเรื่องน้ำมันจักรในเครื่อง เลยได้คำแนะนำให้คุยกับศูนย์ตรง ๆ สรุป ศูนย์ swatch Take care ดีครับ ทำการ overhaul ให้ฟรีครับ ครบ 2 สัปดาห์ ตอนนี้นาฬิกา กลับมาแล้วครับ
[size=78%]
ปล. โพสรูปไม่ได้ครับ
Beat error อยู่ในช่วง 0.1-0.2
Rate -1.8 , 5.5 , 1.0 , 1.6 , 7.3 , 5.1 , 2.8 เฉลี่ย +3s/d เดี๋ยวรอใช้งานจริงมาอัพเดตอีกทีครับ
Pass test pressure 3 bar


ขอบคุณคำแนะนำดีดีจาก siam naliga ครับ[/size]

4
ต้องบอกว่าทั้งสองแบรนด์มีศักดิ์ศรีใกล้เคียงกัน ความเก่าแก่พอๆกัน ถ้าอธิบายรายละเอียดคือ- Blancpain มีจุดยืนที่จะทำนาฬิกากลไกเท่านั้นเรียกว่ายอมตายถ้าต้องทำนาฬิกาQuartz แน่นอนว่าเกือบตายตอนQuartz รุ่งเรือง แต่ไม่เคยเจ๊งครับ ดังนั้นคุณจะไม่เคยเห็นนาฬิกาควอตใน BP ต้องยอมรับในจุดยืนและความเข้มแข็งของเขา การออกแบบก็ขึ้นกับยุคสมัยเราอาจชอบบ้างไม่ชอบบ้างแล้วแต่พื้นที่และรสนิยม อย่าลืมว่าเขาขายทั่วโลก คนทั้งโลกคิดไม่เหมือนกัน เป็นนาฬิการาคาสูง- Brequet ก็เก่าแก่เหมือนกัน งานสวยออกแบบดีระบบTourbillion ไม่แน่ใจว่าใครทำก่อนระหว่าง 2 ยี่ห้อนี้ ราคาสูงคุณภาพเครื่องพอๆกันงานขัดแต่งพอๆกัน ต่างกันในรายละเอียดลวดลาย กรณีนี้เรื่องขัดแต่ง Brequet ดีกว่านิดๆ ลองไปดูเทียบกันเลยครับผมว่าถ้าซื้อต้องพิจารณางานออกแบบและลองขึ้นข้อดู ประกอบกับการบริการหลังการขาย ถ้าส่งไปservice ที่ Swiss ได้ก็ดีครับ งบประมาณด้วยครับเดี๋ยวไหลไปไกลแต่ทั้งคู่ขายต่อยากนะครับ


ขอบคุณครับ

5

(เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไง ขออภัยด้วย)

Breguet น่าจะสูงกว่าครับ เวลาคนพูดกันว่าแบรนด์ top 5 ก็มี Breguet อยู่ในนั้นด้วย และแม้จะถูกซื้อกิจการไปหลายครั้งก็ยังดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อตั้ง  นวัตกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดคงเป็น tourbillon โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์  หลังจากมาอยู่ในเครือ Swatch แล้วดีไซน์ของนาฬิกาก็ไม่เคยหลุดธีมไปจากความหรูหราแบบคลาสสิกเลย (ดีไซน์ค่อนข้างออกไปทาง antique ด้วยซ้ำ) ถึงแม้ว่า pilot chronographs บางรุ่นจะดูเรือนใหญ่ไปบ้าง แต่ไม่ใหญ่เว่อ

ส่วน Blancpain ถึงแม้ว่าปีที่ก่อตั้งจะเก่ากว่า ถ้าจำไม่ผิดคือเคยเจ๊งตอน quartz crisis แล้วถึงถูกซื้อชื่อแบรนด์กลับมาทำใหม่ ดีไซน์ของนาฬิกาบางช่วงก็ดูสะเปะสะปะบ้าง เคยเห็นเรือนใหญ่ ๆ เว่อ ๆ เหมือนกันช่วงที่ฮิตนาฬิกาเรือนใหญ่กันครับ


 :) :) ครับ

6
ผมสนใจชื่อชั้น คุณภาพเครื่อง การขัดแต่ง ระหว่างสองแบรนด์นี้ ใครชื่อชั้นดีกว่ากันครับ พอมีท่านใดช่วยแชร์ประสบการณ์การใช้นาฬิกาของสองแบรนด์นี้ได้ไหมครับ

7
ตอนเย็นที่ผ่านมาได้มีโอกาสแวะเอามะม่วงไปให้พี่ช่าง นั่งคุยกันอยู่พักนึง ก็นึกถึงกระทู้นี้ขึ้นมาได้ก็เลยลองถามความเห็นของพี่ช่าง


พี่ช่างตอบว่า เท่าที่เล่ามา นาฬิกาก็ดูสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเป็นห่วงเรื่องการกันน้ำ และอยากจะล้างเครื่องฟรี อันนี้ก็อาจจะมีทาง นั้นก็คือ นาฬิกาเรือนนี้มีประกันอยู่ 2 ปี ให้ท่านใช้งานไปตามปรกติชีวิตประจำวันของท่าน ล้างนาฬิกาของท่านตามสบาย หรือจะใส่อาบน้ำก็ได้ ถ้าระบบกันน้ำไม่ดีเต็ม 100% ก็จะมีไอน้ำปรากฎให้เห็นที่กระจก จะเป็นฝ้า นั้นแหละครับ ให้ถ่ายภาพไว้แล้วรีบเอาเข้าศูนย์ให้เร็วที่สุด ตามประกันแล้วก็จะได้รับการล้างเครื่อง เช็กกันน้ำ และยังอาจจะขอให้ปรับความเที่ยงตรงให้เที่ยงตรงมากขึ้นกว่าเดิมด้วย  แต่ถ้าพยายามแล้วแต่น้ำก็ไม่มีวี่แววจะเข้า แถมยังเดินอย่างมีเสถียรภาพแบบเดิม ๆ อีก ก็ขอให่ดีใจที่นาฬิกา NOS ของท่านมีคุณภาพทัดเทียมของใหม่ทุกประการครับ^^


อ่อ อีกนิดนึง ปรกติระบบกันน้ำจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าลงน้ำบ่อยหรือใช้งานหนักขนาดไหนน่ะครับ ^^


ขอบคุณมากครับ ที่กรุณานำคำถามผม ไปถามต่อกับช่าง เป็นแนวทางที่ดีมากเลยครับ

8
คำถามคือ นาฬิกาสต๊อกมานาน น้ำมันหล่อลื่นน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว ผมควร overhaul ก่อนใช้ไหม (จริงๆก็ใช้ไปหลายวันแล้ว)
- ปรึกษาศูนย์ดูครับ เค้าให้ความเห็นอย่างไร ส่วนตัวผมถ้าเดินตรงตาม spec จะไม่ทำอะไรครับ (ย้ำว่าส่วนตัวผมเองนะครับ)


แล้วพอมีสิธีไหนไหม ที่จะสามารถรับการ overhaul จากศูนย์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอคำแนะนำด้วยครับ
- บอกศูนย์ไปตรงๆเลย ของเก่าเก็บแม้จะใหม่แต่ไม่สบายใจ อยากส่งล้างเครื่อง กังวลน้ำมัน ซีลยาง ระบบกันน้ำ.... ฯลฯ
- ศุนย์อาจจะแจ้งว่ายอมทำให้ฟรีก็ได้นะครับ แต่มีข้อแม้อะไรก็ว่ากันไป เช่น ไม่รับประกันริ้วรอยบนตัวเรือน ประกันอาจจะเหลือแค่ 1 ปี หรือขาดเลย (ยกตัวอย่างเฉยๆนะครับ) ก็ต้องลองไปชั่งใจดู



ผมชอบคอมเม้นของพี่ท่านนี้ครับ
ตรงไปตรงมาดี ต้องการอะไรก็บอกเค้าไป ได้ไม่ได้ หรือได้ยังไงก็ให้มันรู้กันไปเลย
ไม่ค้างคาใจครับ ^^


ผมเคยอ่านคอมเม้นของพี่นกฮูก ที่ครั้งนึงเคยมีคำถามว่านาฬิกาจะถึงเวลาล้างเครื่องหรือยัง
ครั้งนั้นท่านตอบมาว่า ให้สังเกตุการทำงานของนาฬิกาดู โดยการขึ้นลานให้เต็ม ถ้าเป็นอัตโนมัติก็ขึ้นลานไปสัก 40 รอบขึ้น คะเนว่าเต็ม ตั้งเวลานาฬิกาให้ตรงชนิด วินาทีต่อวินาที แล้วให้ดูผลในสองเรื่องคือ  1.ความเที่ยงตรงต่อ 24 ชั่วโมง ว่าได้ตามสเปคไหม กับ  2.มีจำนวนชั่วโมงของกำลังสำรองตามสเปคไหม ถ้าสองอย่างนี้ผ่านก็แสดงว่านาฬิกาของคุณยังอยู่ดีมีสุขครับ  เท่าที่อ่านจากเจ้าของกระทู้ ท่านรู้ทั้งกำลังสำรองและความเที่ยงตรง แสดงว่าท่านทำมาทั้งสองอย่างแล้วและผ่านตามมาตรฐานสเปคทุกประการ นาฬิกาของท่านจึงถือว่ายังทำหน้าที่ได้สมบูรณ์อยู่ครับ


ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของผมครับ ^^


ขอบคุณมากครับ

9
คำถามคือ นาฬิกาสต๊อกมานาน น้ำมันหล่อลื่นน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว ผมควร overhaul ก่อนใช้ไหม (จริงๆก็ใช้ไปหลายวันแล้ว)
- ปรึกษาศูนย์ดูครับ เค้าให้ความเห็นอย่างไร ส่วนตัวผมถ้าเดินตรงตาม spec จะไม่ทำอะไรครับ (ย้ำว่าส่วนตัวผมเองนะครับ)


แล้วพอมีสิธีไหนไหม ที่จะสามารถรับการ overhaul จากศูนย์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอคำแนะนำด้วยครับ
- บอกศูนย์ไปตรงๆเลย ของเก่าเก็บแม้จะใหม่แต่ไม่สบายใจ อยากส่งล้างเครื่อง กังวลน้ำมัน ซีลยาง ระบบกันน้ำ.... ฯลฯ
- ศุนย์อาจจะแจ้งว่ายอมทำให้ฟรีก็ได้นะครับ แต่มีข้อแม้อะไรก็ว่ากันไป เช่น ไม่รับประกันริ้วรอยบนตัวเรือน ประกันอาจจะเหลือแค่ 1 ปี หรือขาดเลย (ยกตัวอย่างเฉยๆนะครับ) ก็ต้องลองไปชั่งใจดู



ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ

10
มีคนกล่าวว่า เจเกอเลอครูท เป็นช่างนาฬิกา ของผู้ผลิตนาฬิกา และ 3 ทหารเสือสวิส ก็ล้วนแต่เคยใช้เครื่องที่ผลิตจาก เจเกอทั้งนั้น และนักสะสมบางท่านกระซิบว่า เนื้องานและเครื่องของ เจเกอร์ ไม่แพ้ 3 ทหารเสือสวิสเลย

13
ขอใช้วลีฮิตของ SNG ในยุคเก่าก่อนที่ว่า " ถ้าชอบก็ลุยเลย "    ก็อย่างที่เคยกล่าวไปแล้ว   อย่าไปกังวลเรื่องของชิ้นส่วนพลาสติกมากขนาดนั้นเลย  เอาเป็นว่าใช้ไปอีกสิบปี   หากนาฬิกาจะพังหรือเสียนั้น  มันไม่ได้เกิดจากชิ้นส่วนพลาสติกสองชิ้นนี้หรอกครับ  เสียจากส่วนอื่นแน่นอน    เหมือนอย่างหลายๆเรือนที่เคยทำมา  ทั้งรุ่นที่ม้าเป็นเหล็กกับรุ่นธรรมดาที่เป็นม้าพลาสติก  มันไม่ได้เสียมาจากชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกนี้เลย  โดยมากจะเกี่ยวกับปัญหาน้ำเข้าเพราะซีลเสื่อม ทำหล่นกระแทก ซะเป็นส่วนใหญ่

ถ้า concern เรื่องความคุ้มค่าต่อราคา  ในราคาเท่านี้  ได้เครื่องดีออฟชั่นสูงเกินราคาระดับนี้  หาตัวเปรียบได้ยากครับ  นาฬิกาญี่ปุ่นแพงกว่านี้ไปตั้งเยอะแล้ว  ได้เครื่องที่ก็รู้ว่าไม่ได้แตกต่างกับรุ่นธรรมดาของเขามากนัก  แค่ทำโรเตอสีทองให้ดูหรูกว่ารุ่นเบสิคอีกนิด  ขัดแต่งให้ดูสวยกว่าเครื่องเกรดมาตรฐานอีกหน่อย     

ถ้าคิดว่าชอบรูปทรงของรุ่นนี้แล้ว   จะหาอย่างอื่นมาแทนก็คงไม่ได้  แค่กังวลใจกับอะไหล่พลาสติกเท่านั้นเอง  เพราะมุมมองในการเล่นหรือเลือกซื้อนาฬิกาของแต่ละคนก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป   บางคนแค่ชอบรูปร่างหน้าตาถูกใจก็ควักบัตรเครดิตแล้วไม่ได้สนใจเลยว่าจะเป็นเครื่องอะไร   บางคนก็นิยมเทียบสเปคมองทุกสิ่งอย่างต้องมีตัวเลขที่ดีเพื่อความสบายใจ  บางคนก็นิยมแต่เครื่องที่ต้องเป็น in house    เครื่องโหลๆเครื่องที่ใช้ร่วมกับคนอื่นเขาก็ไม่สนใจ


ครับเห็นด้วยครับ  :) :) :)

14
นาฬิกาที่ตั้งค้างสตอกไว้นาน  อย่างแรกที่ต้องดูแลเลยคือเรื่องซีลยางต่างๆ   ผ่านมานานขนาดนี้มันก็น่าจะเสื่อมหมดแล้ว หรือไม่ใช้ไปอีกสักระยะก็คงเปื่อย  ส่วนเรื่องเครื่อง  ถ้าได้ทำการ Service ก่อนใช้งานได้ก็ดีครับ   เพราะก็แน่นอนว่าน้ำมันภายในแห้งและเสื่อมสภาพไปแล้ว  แม้ว่ามันยังคงเดินตรงแต่ระยะยาวเครื่องอาจจะสึกหรอมากกว่าปกติได้เช่นกัน  นาฬิกาที่ตั้งทิ้งไว้นานน้ำมันไหลมากองรวมกันหมดแล้ว  ร้านเขาคงไม่ได้ขยันนำมาวอร์มเครื่อง  หรือนำมาขึ้นเครื่องแกว่งนาฬิกาให้เครื่องทำงานสม่ำเสมอ  ทำให้นำมันหล่อลื่นมีการเคลื่อนที่  วางไว้สิบปีคือสิบปีแน่นอนครับ


ส่วนกลไกรุ่นใหม่ในตระกูล Powermatic 80  ที่พัฒนาต่อยอดจากกลไก 2824-2 นั้น  ไม่ใช่ว่าจะห่วยจนใช้ไม่ได้  อีกทางหนึ่งเพราะเขาต้องการหนีห่างจาก Selita เพื่อจะทำให้ ETA มีความแตกต่างและมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ากลไกเดิมๆ    แต่มันมีของลอตนึงที่ยอมรับว่ามีปัญหา  แต่เขาก็ได้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวลงไปได้ดีมากแล้ว  ชิ้นส่วนพลาสติกไม่ใช่ผู้ร้าย  ผู้ผลิตเขาคิดมาแล้วว่าการเปลี่ยนชุด Escape wheel และ Pallet folk  เป็นวัสดุนี้  เพื่อให้น้ำหนักเบาและลดแรงเสียดทาน  ไม่งั้นจะทำให้เครื่องเดิมๆสามารถสำรองพลังงานได้มากกว่าเดิมๆอีกเท่าตัวได้ยังไง          แล้วคิดว่าเครื่องเดิมๆใช้มานานๆจะไม่สึกหรอหรืออย่างไร  เครื่องแบบเดิมที่ชิ้นส่วนเป็นโลหะ  ก็เจอมาเยอะที่ทับทิมม้าเสียดสีกับจักรเหล็กจนสึกเป็นร่องได้เหมือนกัน 


เท่าที่เคยได้อ่านบทความตอนที่เครื่องรุ่นนี้ออกใหม่ๆ   ตั้งแต่ที่ยังไม่เคยสัมผัสตัวจริง  ก็มีความคิดแบบนี้เช่นกันว่ามีชิ้นส่วนพลาสติกจะทนหรอเนี่ย   แต่เวลาผ่านไปเท่าที่เห็นคนอื่นใช้มาก็ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงมากมายอะไรขนาดนั้น  และไม่ใช่ว่าจะมีปัญหาทุกเรือน ของที่ผลิตแบบ Mass  ก็ต้องมีบ้างที่จะมีปัญหาในบางเรือน

แต่มาถึงตอนนี้ที่เคยได้ซ่อมนาฬิการุ่นนี้มาบ้าง   ก็ยังไม่พบว่ามันจะแย่ขนาดนั้นเลยนะครับ   แต่เพราะว่ามันยังใหม่อยู่ในสายการผลิตมาไม่ถึงสิบปี  ยังต้องผ่านบทพิสูจน์อีกมาก คงยังไม่ใช่แบบ 2824 ที่อยู่มานานหลายสิบปีจนมั่นใจในคุณภาพ   
ถ้าเรามองแค่ด้านนี้ด้านเดียวคงไม่ได้   ข้อดีที่แตกต่างของกลไกในตระกูล 80 ชม.นี่ก็มีอะไรที่ดีหลายๆอย่าง  ที่ก่อนหน้านี้  คุณสมบัติเหล่านี้จะอยู่ในนาฬิกาที่มีราคาหลักแสนทั้งนั้น  เช่น

- ระบบสายใยทำงานอิสระ Free sprung balance การปรับตั้งความเที่ยงตรงด้วยการปรับตั้งตุ้มน้ำหนักที่จักรกลอก  ไม่ใช่การปรับตั้งที่ตัว Regulator  ที่เลื่อนความสั้นยาวของสายใย แบบกลไกพื้นฐานทั่วไป


- สายใย Silicon เป็นความสำเร็จในการผลิตที่ทำให้สายใยเดิมๆที่เป็นวัสดุประเภท Alloy อย่าง Nivaflex ที่สายใยส่วนใหญ่ใช้กัน ทั้งการคงรูปทรงที่ดีกว่า  สามารถทำงานในทุกสภาวะการณ์  แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ก็ส่งผลกระทบน้อยกับวัสดุ Silicon  หากเป็นก่อนหน้านี้เครื่องอะไรบ้างที่ใช้สายใย Silicon  ก็เป็นนาฬิการะดับหัวแถวทั้งนั้น   นี่ถือเป็นครั้งแรกของนาฬิการะดับ Mass ที่จะมีคุณสมบัตินี้


- การสำรองพลังงานได้นาน 80 ชม.  จะมีนาฬิกาอะไรบ้างในระดับราคาแค่นี้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว  เท่าที่นึกได้ตอนนี้ก็จะเป็น Oris Aquis ตัวใหม่ที่สำรองลานได้มากๆแบบนี้  แต่ราคาป้ายก็ทะลุหกหลักไปแล้ว 


ยกตัวอย่างข้อดีบางส่วนของกลไกในตระกูล 80 ชม. มาให้เห็นบ้าง  อย่ามองแค่ม้ากับจักรเหล็กเป็นพลาสติกเป็นข้อด้อยเลยครับ  ถ้านาฬิกาตรามงกุฏใช้ชิ้นส่วนพลาสติกบ้าง   ก็คงไม่รู้สึกกังวลแบบนี้หรอกครับ    ในนาฬิการะดับ Entry level  ที่ราคาประมาณนี้  ถัาไม่ใช้ยักษ์ใหญ่ Swatch group ไม่มีทางที่จะทำให้นาฬิการะดับ mass มีออฟชั่นแพรวพราวได้ขนาดนี้หรอกครับ 


เอาตรงๆนาฬิกาญี่ปุ่นตอนนี้ราคาแซงหน้านาฬิกาสวิสบางแบรนด์ไปไกลมากแล้วนะครับ   


ก่อนอื่นขอขอบคุณคุณ
accutron ที่กรุณาให้ความรู้และแก้ไขความเข้าใจผิดบางประการของผมเกี่ยวกับเครื่อง Powermatic 80 และขอบคุณมากครับที่แชร์ประสบการณ์ และความรู้ให้อย่างละเอียด แต่ก็มี powermatic 80 ที่น่าสนใจ คือ รุ่นที่ผ่าน cosc เพราะรุ่นนี้ ใช้โลหะทั้งหมด และยังคงไว้ซึ่งการสำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง และเที่ยงตรงในระดับ cosc แต่ผมไม่ชอบหน้าตานาฬิการุ่นนั่นเลยจริง ๆ (lelocle)

15
นี่คือชิ้นส่วนในเครื่อง power 80 ที่ไม่ใช่โลหะ
https://www.watchuseek.com/threads/questions-about-eta-c07-powermatic-80-h-10-etc.5104577/#lg=attachment15361198&slide=0
แน่นอนว่าความทนทานจะด้อยกว่า ETA 2824-2 ที่มีชิ้นส่วนเป็นโลหะ


เรื่องความเที่ยงตรง ปรกตินาฬิกาสวิสที่มีมาตรฐานทั่วไปไม่ใช่โครโนมิเตอร์ ความเที่ยงตรงจะถูกตั้งไว้ที่ช่วง +-10วินาทีต่อวัน


เรื่องสารหล่อลื่น อายุสารหล่อลื่น 5 -7 ปี เป็นประมาณการเท่านั้น หลาย ๆ กรณี 10 ปีก็ยังคงสภาพอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย


เรื่องกำลังสำรองก็เช่นกัน กำลังสำรองมักจะมีค่าเป็นช่วง เช่น ประมาณ 38 - 42 ชั่วโมง เป็นต้น


เสถียรภาพการทำงานของนาฬิกา สำคัญกว่าความเที่ยงตรงที่ขาดเสถียรภาพ.


ขอบคุณ คุณ Tanz มากครับที่หารูปมาให้ดู และขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมคระบ

Pages: [1] 2 3 4